เมืองสายน้ำ สามเวลา…สมุทรสงคราม

 

เมืองต้องห้าม…พลาด

“เมืองสายน้ำ สามเวลา”…สมุทรสงคราม

ปก-5

“นิยามของสายน้ำสามเวลาที่เราทราบมาก็ คือ วิถีชีวิตของคนที่นี้ใช้สายน้ำในการดำเนินชีวิต

เช้าขึ้นมาก็ใช้เรือในการสัญจร กลางวันก็ใช้ในการล่องเรือชนสถานที่ต่างๆ 

ตกเย็นมาก็ล่องเรือชมหิ่งห้อย”

และที่นี่มีสามอำเภอ คืออำเภอเมือง อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนที

สามศาสนาคือ พุทธ คริสต์  อิสลาม

สามนา คือ นากุ้ง นาเกลือ นาข้าว

นอกจากตลาดน้ำอัมพวา หรือไหว้พระ  9 วัดแล้ว ถ้าเอ่ยถึงสมุทรสงครามแล้วเพื่อนๆ นึกถึงที่ใหนกันบ้างคะ

วันนี้ sanoi และเพื่อนๆ จะพาไปเที่ยวกันค่ะ เรามีที่เที่ยวมากมายมาให้ท่านผู้อ่านได้รับชม

เผื่อว่าจะเป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวในครั่งต่อไปนะคะ  ตามพวกเรามากันเลยค่ะ

_DSC0226

เมื่อเอ่ยถึงสมุทรสงครามสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของ sanoi ก็คือเพลง มนต์รักแม่กลอง และลาสาวแม่กลองขึ้นมาทันที

“สิ้นแสงดาวดุเหว่าเร่าร้อง จากสุมทุมลุ่มน้ำแม่กลอง พี่จำจากน้องคนงาม แว่วหวูดรถไฟ พี่แสนอาลัยสมุทรสงคราม คงละเมอเพ้อพร่ำ คิดถึงคนงามที่อยู่แม่กลอง”  มนต์รักแม่กลอง

“เจื้อยแจ้วแว่วเสียงสำเนียงขับร้อง ดั่งเพลงมนต์รักแม่กลองล่องลอยพริ้วหวานซ่านมา
กล่อมสาวงามบ้านอัมพวามนต์รักแม่กลองแว่วมา เหมือนสายธาราแม่กลองรำพัน”  ลาสาวแม่กลอง

ในการเดินทางครั้งนี้ทาง Bloggertrip ได้รับเชิญจากทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานใหญ่ และการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อร่วมเดินทางเปิดประสบการณ์และเรียนรู้วิถีชุมชนที่สมุทรสงครามค่ะ sanoiเองได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของทาง Bloggertrip ด้วยค่ะ

การเดินทางของพวกเรากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วนะคะตามมาเที่ยวกับพวกเราได้เลยค่ะ

เราออกเดินทางกันวันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 15.30 น. จุดเริ่มต้นที่ ททท.สำนักงานใหญ่ค่ะ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงตลาดน้ำอัมพวาแล้วค่ะ วันนี้เราจะพักกันที่บ้านครูปูรีสอร์ทกัน เป็นรีสอร์ทในสวนติดริมน้ำบรรยากาศดีมากๆ เลยละค่ะ

page

 

บรรยากาศรีสอร์ท ติดริมน้ำค่ะ

cats1

 

วันนี้ sanoi ได้พักในบ้านเฟื่องฟ้า บรรยากาศในห้องน่าพักผ่อนมากเลยค่ะ 

บรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทค่ะ

cats3

 

เก็บสัมภาระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกมาที่ท่าน้ำถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินกันค่ะ

_DSC0092

cats4

หลังจากชมบรรยากาศยามเย็นกันพอสมควรทางคณะ จากททท. ได้พาพวกเราไปทานอาหารกันที่ร้านเจ้าสำราญค่ะ

ที่ร้านนี้เป็นร้านอาหารติดริมน้ำร้านตั้งอยู่ด้านหลังตลาดน้ำอัมพวา มีดนตรีฟังน่านั่งมากค่ะ มาที่นี่มีเมนูแนะนำด้วยนะคะ  มีทั้งปลาหมึกผัดกะปิ  น้ำพริกไข่ปู  หอยหลอดผัดฉ่า ต้มยำปลาทูสดใส่มะดัน  หอยลายผัด แต่ละอย่างอร่อยมากๆ ค่ะ โดยเพราะปลาหมึกผัดกะปิต้องลองให้ได้ นะคะ

บรรยากาศภายในร้านค่ะ

cats5

เมนูแนะนำ ปลาหมึกผัดกะปิ

_DSC0157-001

 

หอยหลอดผัดฉ่า

_DSC0159

 

น้ำพริกปูไข่

_DSC0155

 

ผัดหอยลาย

P1010720

 

 

เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาล่องเรือลำน้ำแม่กลองเพื่อไปชมหิ่งห้อยกันแล้วค่ะ

cats6

เคยได้ยินใครหลายๆ คนพูดกันว่าหิ่งห้อยจริงๆ ไม่มีแล้วละที่เห็นน่ะเขาเอาไฟคริสต์มาสมาติดไว้ มาถึงถิ่นทั้งทีต้องพิสูจน์ค่ะ ของแบบนี้หลอกกันไม่ได้จริงไหมคะ  เมื่อเรือเริ่มแล่นเราสัมผัสได้กับอากาศที่เย็นสบาย 2 ข้างฝั่งคลองมีบ้านเรือนปลูกติดริมน้ำ วิถีชีวิตแบบนี้ยังคงหาได้จากที่นี่ค่ะ

เมื่อเรือเริ่มแล่นออกห่างไกลจากชุมชนแสงไฟเริ่มมืดลงพี่คนขับเรือเริ่มดับเครื่องเรือแล้วชี้ชวนให้พวกเราดูที่ยอดไม้ข้างริมคลอง แสงระยิบระยับเปล่งแสงสว่างขึ้น และดับพร้อมเพรียงกันดูสวยงามค่ะ แต่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นภาพถ่ายได้เพราะแสงน้อยมากๆ  พี่คนขับเรือพาพวกเราล่องเรือดูหิ่งห้อยในหลายๆ จุดตลอดแนวริมคลองเลยค่ะ  หลังจากดูหิ่งห้อยกันพอสมควรแล้วก็พากันกลับที่พัก วันนี้เป็นวันแรม 3 ค่ำเดือน 3 พระจันทร์ลอยเหนือยอดไม้ดวงโตมากๆ เลยค่ะ เสียดายมากๆ เลยค่ะถ้าอยู่บนบกคงได้ถ่ายภาพมาให้เพื่อนๆดูกันแล้ว

เมื่อกลับมาถึงที่พักเวลานี้ยังหัวค่ำอยู่พวกเราเลยไปเดินเล่นที่ตลาดน้ำอัมพวากันค่ะ เดินตามทางปูนจากที่พักไปแค่นิดเดียวเอง เดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งพวกเรามานั่งฟังเพลงกันที่ร้าน บ้านทองโบราณค่ะ วันนี้เป็นวันศุกร์นักท่องเที่ยวมีพอสมควรค่ะไม่มากนัก ร้านนี้เพลงเพราะค่ะ จะเล่นประมาณเพลงอคูสติกเพราะๆ ฟังสบายๆ ใครอยากดื่มอยากดริ้งก็ว่ากันตามอัธยาศัยค่ะ แต่ sanoi ขอแค่น้ำอัดลมค่ะ ไม่ถนัดแอลกอฮอล์ ร้านนี้เปิดถึงสี่ทุ่มครึ่งนะคะ แต่ครัวจะปิดประมาณสามทุ่มครึ่ง ตอนปิดร้านจะมีเพลงประจำปิดร้านด้วยค่ะ เด็กเสริฟกับลูกค้าในร้านก็ช่วยกันร้องด้วย  อำลาค่ำคืนนี้ไปก่อนนะคะ ราตีสวัสดิ์ค่ะ

 

บรรยากาศในร้านค่ะ

_DSC0204-001

ทั้งลูกค้าและพนักงานในร้านร่วมกันร้องเพลงปิดร้านค่ะ

_DSC0217

 

     อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ค่ะ วันนี้วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ค่ะ วันนี้พวกเราตื่นมาใส่บาตรกันแต่เช้าเลยค่ะ 6 โมงเช้าของวันนี้เงียบสงบดีจังเลยค่ะ แต่อากาศยังเย็นๆ อยู่นะคะ

มาอัมพวาก็บ่อยนะคะแต่ไม่เคยได้มาพักค้างคืนแบบนี้  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยค่ะ ตื่นมาใส่บาตรโดย พระสงฆ์จะพายเรือมาบิณฑบาตแต่เช้าใครที่ยังไม่เคยมาสัมผัสการใส่บาตรแบบนี้ต้องมาสักครั้งค่ะ

หลังจากใส่บาตรเสร็จเพื่อนๆ ในคณะก็กลับไปพักผ่อนกันค่ะ เพราะยังไม่สว่างเลยแต่ sanoi อยากเก็บภาพที่หาดูยากแบบนี้มาฝากเพื่อนๆ ผู้อ่านค่ะ เลยอยู่จนถึง 7 โมงเช้าเลย

_DSC0275

_DSC0327

_DSC0305

_DSC0281

หลังจากกลับเข้าห้องอาบน้ำเก็บสัมภาระเสร็จก็มารับประทานอาหารเช้ากันค่ะ วันนี้เราทานที่บ้านครูปูมี ข้าวต้มทรงเครื่อง  ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม และขนมปังเตรียมไว้ให้ค่ะ

cats7

cats8

cats9

ใครอยากชิมอาหารปรุงกันสดๆ ทางเรือก็มีนะคะ วันนี้มีผัดไทยป้าแก้ว พายเรือผ่านมาด้วยค่ะ ลูกค้าที่รีสอร์ทเรียกพอดี เราเลยได้เข้าไปถ่ายภาพ และพูดคุยกับป้าแก้วค่ะ  ป้าแก้วจะพายเรือไปขายล่องตามแม่น้ำตามรีสอร์ท และบ้านเรือนริมน้ำต่างๆค่ะ ช่วงบ่ายๆ ถึงจะวนกลับมาขายที่ตลาดน้ำอัมพวา ป้าแก้วยิ้มแย้มแจ่มใสมากๆ ค่ะ ผัดไทยของคุณป้าก็น่าทานมากเลย เสียดายที่เราอิ่มซะแล้วไม่งั้นคงได้ชิมฝีมือป้าแก้วค่ะ คราวหน้าต้องลองแล้วละค่ะ

 

ผัดไทยป้าแก้วมาแล้วจ้า

cats10

 คนทำอาหารอารมณ์ดีแบบนี้รสชาดอาหารก็ต้องดีตามไปด้วยจริงไหมคะ

_DSC0429

 หน้าตา น่าทานใช่ไหมล่ะคะเพื่อนๆ

_DSC0447

 

หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ววันนี้เราจะไปตลาดน้ำท่าคากันค่ะ ตลาดแห่งนี้เปิดเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ และวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ  7 ค่ำ 12 ค่ำ นะคะ  ที่นี่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากค่ะสบายๆ  แต่ก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาตินะคะ มีบริการเรือนำเที่ยวชมสวนด้วยค่ะ

การเดินทางมาโดยรถยนต์ใช้ทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) กิโลเมตรที่ 32 เลยทางแยกเข้าวัดเกาะแก้วไปเล็กน้อยนะคะ จะมีทางแยกขวาไปอีก 5 กิโลเมตร หรือจะใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ก็สามารถขึ้นรถได้ที่ตลาดในตัวเมือง หน้าธนาคารทหารไทย สายท่าคา-วัดเทพประสิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 07.00–18.00น. รถออกทุก 20 นาทีค่ะ

 

 บรรยากาศโดยรวมของตลาดน้ำท่าคาค่ะ

_DSC0472

 

 สะพานเชื่อมระหว่างสองฝั่งตลาด

_DSC0591

ขณะที่เราถ่ายภาพกันอยู่ก็ได้ยินเสียงเรียก  “หนู หนู นี่ป้ายถ่ายตรงนี้กันซิ”

_DSC0554

_DSC0454

เสียงที่ได้ยินคือคุณลุงพ่อค้าในตลาดนั่นเองค่ะ  แต่ป้ายอาจจะชำรุดทรุดโทรมไปซักหน่อย คุณลุงคงอยากให้พวกเราช่วยโปรโมทตลาดน่ะค่ะ

 

ของที่ระลึกก็มีค่ะ

_DSC0462

_DSC0455

 

ใครอยากล่องเรือชมสวนผลไม้ก็มีให้บริการนะคะ

_DSC0469

_DSC0587

cats13

 

จะผักสดหรือผลไม้ก็มีขายค่ะ

_DSC0468

 

ผลไม้สดๆ จากสวน ทั้งส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่  มะพร้าวน้ำหอม ฟักข้าว ละมุดสีดา

cats11

 

ผลิตผลแปรรูปก็มี ทั้งน้ำตาลปึก มะพร้าวแก้ว ข้าวหมาก และตระกร้าสานจากใบมะพร้าว

cats12

 

สายบัวก็มี ยอดชะครามก็เยอะค่ะ

cats14

 

หรือใครอยากทานอาหารที่ปรุงกันสดๆจากเรือก็มีให้เลือกชิมกันมากมายหลายเมนูนะคะ

cats15cats16cats17

 

     หลังจากเดินชมตลาดน้ำกันจนเมื่อยแล้วใกล้ๆ กันยังมีร้านกาแฟด้วยนะคะ ชื่อร้าน “นิทานกาแฟ”  ร้านน่านั่งมากๆ ค่ะมีจุดที่ถ่ายภาพเยอะมากแใครที่ชอบการถ่ายแPortrait ก็คงชอบที่นี่แน่ๆ  ที่นี่เป็นบ้านสองชั้น ด้านล่างเป็นร้านกาแฟ ด้านบนแต่งบ้าน สไตล์วินเทจค่ะแมีรถมอเตอร์ไซค์โบราณจอดให้ถ่ายภาพด้วยค่ะ

 

 มุมถ่ายภาพเก๋ๆ ค่ะ

cats20

cats19

cats18

 

มุมนั่งเล่นดื่มกาแฟด้านล่างค่ะ

cats21 cats22 cats23

 

ครัวก็วินเทรจด้วยนะคะ

_DSC0643

 

หลังจากซึมซับบรรยากาศที่ตลาดน้ำท่าคากันพอสมควรแล้วพวกเราก็เดินทางกันต่อค่ะ จุดหมายต่อไปคือตลาดน้ำบางน้อยค่ะ

_DSC0651

_DSC0625

_DSC0623

 

ตลาดน้ำบางน้อย มีทุกวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ09.00 – 1500 น. ตั้งอยู่ที่่ปากคลองบางน้อย หน้าวัดเกาะแก้ว  อำเภอบางคนที อยู่ห่างจากอัมพวาเพียง 5 กิโลเมตร ชุมชน ที่นี่เคยเป็นย่านการค้าทางน้ำที่สำคัญมากอีกแห่งหนึ่งในลุ่มน้ำแม่กลองค่ะ

เมื่อมาถึงก็ไหว้พระกันก่อนแล้วเดินเข้าไปเที่ยวชมในตลาดกันได้เลย

_DSC0658

_DSC0660

เมื่อเดินเข้าตลาดไปเราจะเห็นพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ อยู่ตรงทางเข้าเลยค่ะ

_DSC0659

cats24 cats25

 

เดินเข้ามาด้านในของตลาดกันค่ะ  ได้เห็นขนมโบราณด้วยค่ะขนมแบบนี้เพิ่งเคยได้ยินชื่อและเพิ่งได้ทานเป็นครั้งแรกเลยค่ะ  ปรกติเป็นคนชอบทานขนมไทยๆ อยู่แล้วแต่สองอย่างนี้เพิ่งได้ลองจริงๆ  ขนมสัมปันนีกับขนมสลัดงาค่ะ

cats26

ขนมสัมปันนีจะมีรสชาติหวานเย็นๆค่ะ  ส่วนขนมสลัดงาจะออกหวานมันหนึบค่ะอาจเป็นเพราะส่วนผสมนะคะ  ด้านในเป็นไส้มะพร้าวเคี่ยวกับน้ำตาล ห่อด้วยแป้งแล้วคลุกด้วยงาค่ะ ขายแค่อันละ 2 บาทเองค่ะ ราคาแบบนี้คงจะไม่สามารถซื้อขนมอะไรได้ในกรุงเทพนะคะ

มีมุมถ่ายภาพน่ารักๆ เยอะนะคะมีของโบราณด้วย

cats27 cats28

cats29

 

 ใครอยากดื่มกาแฟก็มีนะคะ เราแอบเห็นกระติกน้ำร้อนแบบโบราณด้วยละ

_DSC0703

 

เดินกันเมื่อยๆ ก็มีบริการนวดเท้าด้วยนะคะ

_DSC0723

 เดินมาอีกหน่อยเจอเจ้าของสิ่งนี้ค่ะ  ใครรู้จักบ้างเอ่ย

_DSC0740

มันคือตะกร้อนั่นเองค่ะ เอาไว้ใช้สอยผลไม้อย่างเช่นมะม่วงค่ะ โดยเอาตัวตะกร้อไปผูกติดกับไม้ไผ่ยาวๆ ก็ใช้งานได้แล้วค่ะ

ในตลาดน้ำบางน้อยยังมีอาหารพื้นเมืองอยู่อีกหลายอย่างนะคะ อย่างเช่น ข้าวผัดปลาทูโบราณ  ผัดไทย โรตีแต้จิ๋ว ก๋วยเตี๋ยวน้ำแดง  ถ้าไปครั้งหน้าจะไปลองชิมค่ะ แล้วจะมาบอกเพื่อนว่ารสชาดเป็นอย่างไร  หรือเพื่อนๆ คนไหนไปมาแล้วก็มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ

หลังจากเดินเล่นในตลาดน้ำกันสักพักเราไปไหว้พระกันต่อที่วัดบางกุ้งค่ะ หรือเรียกกันอีกชื่อว่าโบสถ์ปรกโพธิ์ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ค่ะ เรียกได้ว่าอันซีนอินไทยแลนด์เลย

       P1020674 P1020672

_DSC0768

ประวัติของที่นี่เข้าไปอ่านกันได้ที่นี่ได้เลยค่ะ >>> ประวัติวัดบางกุ้ง

วัดนี้มีมุมถ่ายภาพที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ ภาพต้นโพธิ์ที่ปรกคลุมโบสถ์โดยเพราะตรงหน้าต่างที่เห็นองค์พระค่ะ

_DSC0750

_DSC0780

แต่ตอนนี้อาจจะถ่ายออกมาได้ไม่เหมือนภาพเมื่อก่อนนะคะเพราะมีป้ายห้ามนักท่องเที่ยวไม่ให้ปีนขึ้นไปถ่ายภาพค่ะ

นี่ก็เป็นอีกอย่างนึ่งนะคะเที่ยวเมืองไทยหรือที่ใหนๆ  ไปอย่างมีจิตสำนึกค่ะ  ด้วยบ้านเราเป็นเมืองพุทธบางครั้งการถ่ายภาพหรือการเซลฟี่ก็ควรอยู่ในขอบเขตนะคะ

หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วอย่าลืมมาไหว้พระบรมราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินด้วยนะคะอยู่ติดกันเลย

_DSC0775

_DSC0776

P1020689

 เดินถัดจากพระบรมราชาอนุสาวรีย์ไปอีกนิดเราจะเห็นรูปปั้นท่าแม่ไม้มวยไทยค่ะ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายโดยมีวัดบางกุ้งอยู่กลางค่ายเรียกว่า ค่ายบางกุ้ง” จึงเป็นที่ฝึกไพล่พลในสมัยนั้นค่ะ

cats30

P1020683

 แต่ละท่าในภาพนะคะ วิรุฬหกกลับ  จระเข้ฟาดหาง และมอญยันหลักค่ะ ยังมีอีกหลายกระบวนท่าเลยนะคะ

หลังจากชมความสวยงามที่เป็นอันซีนอินไทยแลนด์กันไปแล้วก็ได้เวลาทานอาหารกลางวันกันแล้วค่ะ มื้อนี้เราจะไปทานอาหารกันที่ริมน้ำเช่นเคยค่ะ ร้านนี้ชื่อร้านน้องอุ้มค่ะ เมนูที่แนะนำวันนี้ก็มี  ปลาทูซาเตี๊ยะค่ะ รสชาดออกหวานๆ เนื้อปลาทูแน่นๆ ค่ะ  ถัดมาก็แกงส้มไหลบัว  อ่านไม่ผิดค่ะไหลบัวค่ะปรกติเพื่อนๆ คงเคยได้ยินแต่แกงสายบัวใช่ไหมคะ วันนี้เปลี่ยนมาชิมไหลบัวกันค่ะ ตัวไหลบัวจะกรอบๆ ค่ะ เมนูถัดมาก็เนื้อปูผัดผงกะหรี่ มีแต่เนื้อปูแน่นๆ เลยค่ะ

cats31

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วเรามาล่องเรือกันดีกว่าค่ะ  แต่ไม่ใช่ล่องเรือแบบชมวิวธรรมดานะคะ วันนี้เราจะล่องเรือไปนวดแบบหัตถาธาราค่ะ  ก็คือการนวดในเรือระหว่างล่องเรือชมทัศนียภาพนั้นเอง

 

 คนถูกนวดก็อาจจะรู้สึกผ่อนคลายจนหลับนะคะ

_DSC0804

 

 แต่ใครที่ไม่หลับก็จะเห็นวิวทิวทัศน์สองริมฝั่งคลองแบบนี้ค่ะ

ค่าบริการในการล่องเรือถ้าเช่าเหมาลำก็ 3,500 บาท ถ้าคิดเป็นรายบุคคลก็ คนละ 350 บาท ต่อ 1ชั่วโมงครึ่งนะคะ

 

cats32

_DSC0815

 

หลังจากได้ผ่อนคลายจากการล่องเรือนวดหัตถาธารากันแล้วก็เดินทางเข้าที่พักกันค่ะ  คืนนี้เราย้ายมาพักกันที่ บ้านสวนอัมพวันรีสอร์ทกันค่ะ  เป็นรีสอร์ทติดลำคลองเล็กๆด้านหน้าติดกับสวนผลไม้ค่ะบรรยากาศเงียบสงบมากๆ  ใครที่ทำงานที่ต้องใช้ความคิดในการวางแผนงานละก็ที่นี่เหมาะมากๆเลยละค่ะ  ว่าแล้วเราก็ไปดูบ้านพักกันค่ะ

cats34

 

บรรยากาศบ้านพักของเราคืนนี้ค่ะ

cats33 cats35

ภายในห้องนอนและห้องน้ำ มีโอ่งใส่น้ำอาบแบบโบราณด้วยค่ะ แล้วก็มีเครื่องทำน้ำอุ่นบริการด้วย

เมื่อเก็บสัมภาระกันเรียบร้อยแล้ววันนี้เราจะออกไปเดินตลาดน้ำอัมพวากันอีกค่ะแล้วก็รับประทานอาหารเย็นกันที่นั่นเลย

ตามมาดูกันค่ะว่าที่นี่มีอะไรกันบ้าง

cats39

 

มาอัมพวาทั้งทีที่ขาดไม่ได้คืออาหารทะเลค่ะ

cats40

 

มาถึงอัมพวากันแล้วก็มาดูกันว่าที่นี่เขามีอะไรกันบ้าง

_DSC0914

DSC02529

_DSC0926

 

cats41

cats42

cats44

cats38

 

ยังมีอีกหลากหลายความรู้เกี่ยวกับอัมพวานะคะอย่างเช่น  พิพิธภัณฑ์เมื่อวันก่อน  อัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์

cats43

 

อย่าลืมแวะไปเยี่ยมเยือนบ้านครูเอิ้อด้วยนะคะ  ใครรู้จักสุนทรภรณ์บ้างเอ่ย

DSC02558

 

เดินเล่นกันเพลินไปเลยค่ะ  วันนี้เราจะทานอาหารเย็นพร้อมกับฟังเพลงเพราะๆ กันที่ร้านบ้านทองโบราณนะคะ  ใครจะทานอาหารที่นี่ต้องจองโต๊ะไว้ล่วงหน้านะคะ เพราะวันหยุดแบบนี้คนเยอะมากค่ะมาดูอาหารวันนี้กันค่ะ

cats45 cats46

อาหารคาวไปแล้วต่อกันด้วยอาหารหวานกันค่ะ

P1010809

 

ฝั่งตรงข้ามร้านเป็นโฮมสเตย์นะคะ  เราเกือบได้พักที่นี่แล้วละค่ะแต่จองช้าไปนิดคืนนี้ลากันด้วยภาพนี้นะคะ

P1010803

 

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ค่ะ วันนี้เป็นอีกวันที่ตื่นเช้ามาใส่บาตรนะคะแต่วันนี้ทางรีสอร์ทได้นิมนต์พระเข้ามารับบาตรที่นี่ค่ะ

cats36

P1010836

วันนี้เราได้เห็นวิถีชีวิตและอีกอาชีพหนึ่งของคนที่นี่ค่ะ  คือการทำน้ำตาลมะพร้าวค่ะ เห็นคุณลุงขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อไปเก็บน้ำตาลสดค่ะ

P1010832

หลังจากใส่บาตรกันเรียบร้อยแล้ววันก็ทานอาหารกันค่ะ  วันนี้มีข้าวต้ม  หมู กุ้ง ปลาหมึก แล้วแต่ใครชอบแบบไหนก็สั่งได้เลยค่ะ แล้วก็ยังมีปลาท่องโก๋ กับกาแฟและโอวันตินด้วยค่ะ

cats37

 แปดโมงครึ่งเราออกจากรีสอร์ทเพื่อเดินทางไปเรียนรู้วิถีชุมชนกันค่ะ  ชุมชนที่เราจะไปคือ “ศูนย์การเรียนรู้มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม” ชุมชนบ้านบางพลับค่ะ

ชุมชนบ้านบางพลับตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม การเดินทางใช้เส้นทางถนนพระราม2(ธนบุรี-ปากท่อ)เลี้ยวเข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม มุ่งหน้าเข้าสู่อุทธยานร.2บ้านบางพลับอยู่ห่างจากอุทธยานร.2ประมาณ 3กิโลเมตรเจอแยกขวามือให้ตรงไปอีกประมาณ300เมตรค่ะ ที่ชุมชนแห่งนี้ได้รับรางวัลหลายปีซ้อนเลยค่ะ

ปี2550  ได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว

ปี2551  ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคกลาง

ปี2553   ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวชุมชนภาคกลาง

ปี2556  ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ที่นี่มีกิจกรรมเยอะแยะมากมายค่ะ ตามไปดูกันเลยค่ะว่าวันนี้พวกเราได้ทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง

เมื่อไปถึงคุณลุงสมทรง แสงตะวัน อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ เกษตรกรผู้บุกเบิกภูมิปัญญาชุมชนที่นี่ได้ออกมาต้อนรับและเล่าความเป็นมาของที่นี่ให้พวกเราฟังด้วยค่ะ

คุณลุงสมทรง แสงตะวัน

_DSC0031

 

หลังจากนั้นคุณลุงก็สาธิตการทำน้ำตาลจากน้ำตาลมะพร้าวตั้งแต่กระบวนการเก็บน้ำตาลจากต้นจนถึงการนำมาต้มเคี่ยวจนได้น้ำตาลปึกเลยค่ะ

cats47

cats48

 

เมื่อได้น้ำตาลมะพร้าวดิบมาแล้วก็ต้องนำมาผ่านกรรมวิธีการต้มค่ะ

cats49

cats50

หลังจากดูการทำน้ำตาลเสร็จแล้วก็ได้เวลาออกกำลังกายกันแล้วค่ะ

cats51

 

ไปปั่นจักรยานชมสวนผลไม้กันค่ะ

cats52

cats53

บรรยากาศร่มรื่นดีมากเลยค่ะ

หลังจากออกจากสวนผลไม้สถานีต่อไปของเราคือไปดูไปชิมผลไม้กลับชาติกันค่ะ  เอจะเป็นยังไงกันนะผลไม้กลับชาติเนี่ย?

cats54

นี่แหละค่ะหน้าตาผลไม้กลับชาติ

ทั้งหมดนี่ก็คือผลไม้แช่อิ่มค่ะ  แต่ที่แปลกใจก็คือการนำบอระเพ็ดที่ว่าขมนักขมหนามาทำให้หวานอร่อยนี่แหละค่ะ

ผลไม้ต่างๆที่นำมาแช่อิ่มก็มีหลายชนิดนะคะ อย่างเช่น  มะละกอ พริก มะละขี้นก ลูกตำลึง มะนาว บอระเพ็ด แต่sanoiชอบมะนาวค่ะ  ไม่มีรสความเปรี้ยวหลงเหลออยู่เลยแต่พอกัดลงไปก็รู้สึกได้ถึงความเป็นมะนาวค่ะ  อธิบายไม่ถูกเหมือนกันเพื่อนๆต้องลองไปลิ้มลองกันค่ะ ส่วนมะดันก็นำไปอบแห้งค่ะ

_DSC0279

 

 ไข่เค็มพอกด้วยดินขี้เถ้าที่ได้มาจากการเผาถ่านค่ะ

_DSC0286

 

 เปลือกส้มโออบแห้งค่ะ

_DSC0284

 

หน้าตาขนมสัมปันนีแป้งกล้วยค่ะ รสชาดหอมหวาน

_DSC0282

 

 สวนลิ้นจี่ค่ะลักษณะการปลูกใช้วิธียกท้องร่องให้น้ำใหลผ่านเข้าสวนค่ะ

_DSC0287

 เสียดายที่เวลามีน้อยไปหน่อยเราเลยไม่ได้ไปเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้การทำซอ การทำว่าว และการเผาถ่านผลไม้  ถ้ามีโอกาสเมื่อไรsanoiต้องกลับไปเยือนที่นี่อีกแน่นอนค่ะจะไปค้างที่โฮมสเตย์ของหมู่บ้านนี้เลยค่ะจะได้มีเวลาเข้าไปเรียนรู้วิถีชุมชนที่นี่ได้แบบใกล้ชิดค่ะ

และแล้วก็ได้เวลากลับกรุงเทพกันแล้วละคะ  ทางคณะของ ททท. ได้พาพวกเราไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ โฮมกระเตงค่ะ อาหารอร่อยมาก อาหารทะเลสดๆ ใครจะไปต้องโทรจองล่วงหน้าก่อนนะคะทางโฮมสเตย์จะได้จัดเตรียมไว้ให้เรา

มาดูกันค่ะว่าอาหารมื้อนี้มีอะไรบ้าง

cats55

cats56

สมุทรสงครามยังมีที่ท่องเที่ยวอีกมากมายเลยนะคะแล้วโอกาสหน้าจะนำเสนอในส่วนที่ยังไม่ได้ไปให้ชมกันค่ะ อย่างเช่นตลาดร่มหุบ ดอนหอยหลอด อนุเสาวรีย์แฝดอินจัน อาสนวิหารแม่พระบังเกิด จิตกรรมฝาผนังวัดบางแคน้อย การทำเครื่องปั้นเบญรงค์ ฯ

ใครสนใจจะตามรอยผู้เขียนก็สามารถโทรถามข้อมูลต่างๆได้ตามเบอร์ด้านล่างเลยค่ะ

บ้านครูปูรีสอร์ท  034-725920 , 081-9411249

อัมพวันรีสอร์ท 034-732188 , 081-9615559 , 081-9616665

ชุมชนบ้านบางพลับ 034-761985  , 081-2744433

โฮมกระเตงชาวเล  034-731-221 , 081-9419152 , 087-8285420

ทริปนี้สนุกสนาน ได้ความรู้ และอิ่มท้องเป็นอย่างมากเลยค่ะ  ทริปนี้ผ่านไปด้วยดีได้ต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณต่างๆนะคะ

ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่

ขอขอบคุณการท่องเที่ยวสมุทรสงคราม

ขอขอบคุณ I am devil ยัยตัวร้าย ด้วยนะคะที่ให้โอกาสได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ

 

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะคะ

ขอให้ท่านผู้อ่านสนุกสนานกับการท่องเที่ยวนะคะ แล้วพบกันใหม่ในทริปต่อไปค่ะ

Bloggertrip.com

 

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ สามารถพูดคุยกันได้ที่

เพจ Bloggertrip

Share Button
Leave a Reply