วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ถ้าหากเอ่ยถึงชื่อ วัดมหัตตมังคลาราม น้อยคนนักที่จะรู้จัก แต่ที่เอ่ยชื่อ วัดหาดใหญ่ใน ต้องร้องอ่อ ทันทีDSCF0069

 

วัดมหัตตมังคลาราม หรือ วัดหาดใหญ่ใน

ที่ตั้ง : ถนนเพชรเกษม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาDSCF0073

 

ภายในวัดจะเจอศาลาฤาษี ไหว้สักการะขอพรกันก่อนDSCF0075

 

ศาลาจำหน่าย ธูป เทียน ดอกไม้ ชุดสังฆทาน ตามกำลังศรัทธาDSCF0077

 

ศาลาสำหรับถวายสังฆทานDSCF0080

 

พระนอนองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ในวัดหาดใหญ่ในDSCF0178

 

ตรงข้ามศาลาฤาษี มีพระพุทธรูป อยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่DSCF0175

DSCF0177

 

พระวิหารDSCF0156

 

มีพระพุทธรูป ประดิษฐานภายในพระวิหารDSCF0158

 

บันไดมังกร ขึ้นในภายในวิหารDSCF0160

 

วัดมหัตตมังคลาราม

เดิมชื่อ วัดหาดใหญ่ใน เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ เมื่อปี พ.ศ. 2479 โดยนายทอง นางฉิ้น ใจเย็น ได้บริจาคที่ดินของตน 1 ไร่ และได้ประชุมตกลงร่วมกับประชาชนชาวบ้านหาดใหญ่ อาราธนาพระมหาคลิ้ง อตฺถจาโร ปัจจุบัน คือ พระครูวิจิตรพรหมวิหาร จากวัดเลียบ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมานายจินต์ รักการดี นายอำเภอหาดใหญ่ (สมัยนั้น) พร้อมประชาชนได้มีจิตศรัทธาบริจาคซื้อที่ดินเพิ่มเติม และสร้างวัดขึ้น ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2490 ต่อมากระทรวงศึกษาธิการประกาศตั้งเป็นวัด วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2490 ให้มีนามว่า “วัดหาดใหญ่ใน” และได้เปลี่ยนนามใหม่เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2523 โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดมหัตตมังคลาราม”  เพื่อให้สอดคล้องกับนามพระพุทธไสยาสน์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน พร้อมกับพระนามาภิไธยย่อ “ม.ว.ก.” ประดิษฐานไว้ที่ซุ้มประตูวัด และได้ทรงรับวัดนี้ไว้ในพระราชานุเคราะห์ด้วย ปัจจุบันวัดมีเนื้อที่รวม 26 ไร่ 2 งาน 26 ตารางวาDSCF0155

 

พระวิหารพระพุทธมหัตตมงคล

ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความยาวถึง 35 เมตร สูง 15 เมตร กว้าง 10 เมตร ว่ากันว่าใหญ่เป็นอันดับสามของโลกDSCF0165

 

เมื่อปี พ.ศ. 2416 เริ่มก่อสร้างพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ขนาดยาว 35 เมตร สูง 15 เมตร

เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2519  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระเจ้าลูกเธอทั้ง2 พระองค์ (สมเด็จพระเทพฯ และเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ)  ได้เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธียกพระเกตุมาลาพระพุทธไสยาสน์  และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธไสยาสน์ว่า พระพุทธมหัตตมงคล”  ซึ่งพระองค์ทรงแปลว่า “พระพุทธเจ้าผู้ทรงบรรลุถึงความเป็นใหญ่ เป็นมงคล”

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2520 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระวรชายา  ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างวิหารพระพุทธไสยาสน์ และในโอกาสเดียวกันนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับวัดหาดใหญ่ ไว้ในพระราชานุเคราะห์  พร้อมทั้งพระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดมหัตตมังคลาราม”  เพื่อให้สอดคล้องกับนามพระพุทธไสยาสน์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน  และทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ  “ม.ว.ก.” ประดิษฐานที่หน้าบันซุ้มประตูวัดด้วยDSCF0087

 

พระพุทธมหัตตมงคล

ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ดำเนินก่อสร้างเมื่อ 29 สิงหาคม 2515 โดยมี ม.จ.ทองคำเปลว ทองใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธี

ทำพิธีหล่อพระเกตุมาลา พระหฤทัย พระปัปผาสะ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นราธิวาส พัทลุง และนายกเทศมนตรีเมืองหาดใหญ่ เป็นประธานเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2517

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จฯ พระบรมราชินินาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ เสด็จมาประกอบพิธียกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2519

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสด็จเยี่ยม และทรงประกอบพิธีประดิษฐานแผ่นศิลาจารึกไว้ที่พระเขนย พระพุทธมหัตตมงคล เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2520 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช พระวรชายา เสด็จมาประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ดำเนินก่อสร้างวิหารพระพุทธมหัตตมงคล เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2520

พระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ มาประกอบพิธียกช่อฟ้าพระพุทธมหัตตมงคล เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2529DSCF0090

 

พระพุทธมหัตตมงคล มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และมีความสวยงดงาม ส่งผลให้ประชาชนทุกสารทิศหลั่งไหลมากราบไหว้กันอย่างขาดสาย ด้วยพลังความศัรทธาDSCF0125

 

พระพุทธไสยาสน์ หรือเรียกกันว่า พระนอน เป็นพระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู DSCF0094

 

พระพุทธไสยาสน์ ปางโปรดอสุรินทราหู

ครั้งพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงนิมิตกายให้ใหญ่โต เพื่อแสดงให้อสุรินทราหูผู้ครองอสูรพิภพ ลดความทิฐิ และกลับมาเลื่อมใสในพระองค์ พระพุทธรูปปางนี้มักมีขนาดใหญ่โตมาก ประทับนอนแบบสีหไสยาสน์ พระกัจฉาทับพระเขนย และพระหัตถ์ยกขึ้นประคองพระเศียรDSCF0097

 

พระบาทDSCF0135

 

ใต้พระบาท เรียบไม่มีสลักอะไรDSCF0132

 

จำลองรอยพระบาทDSCF0130

DSCF0126

 

ฐานรองพระพุทธมหัตตมงคลDSCF0102

 

เป็นลาดลายไทย แกะสลักได้งดงามวิจตรศิลป์DSCF0103

 

ใต้ฐานพระพุทธมหัตตมงคล มีจำหน่ายทั้งชุดธูป เทียน ทองคำเปลว ดอกไม้สด พวกมาลัย แล้วแต่ตามจิตศรัทธา เวลาเปิดให้เข้ามนัสการพระนอน เวลา 08.00 น. – 17.00 น.DSCF0117

DSCF0121

DSCF0119

 

ภายใต้ฐานพระพุทธมหัตตมังคลาราม ยังมีพระพุทธรูปหลายองค์ ประดิษฐานให้เราได้กราบไหว้สักการะDSCF0106

DSCF0108

DSCF0110

DSCF0112

DSCF0114

 

และภายใต้ฐานพระพุทธมหัตตมังคลาราม ยังเป็นที่เก็บบรรจุอัฐิDSCF0115

 

บริเวณด้านหน้าฝั่งพระบาทของพระพุทธมหัตตมงคล จะมีท้าวมหาพรหม ตั้งประดิษฐานให้สักการะบูชาDSCF0153

DSCF0147

DSCF0148

DSCF0151

 

พระวิหารพุทธมหัตตมงคล มีชื่อเสียงประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นพระนอนที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ทำให้มีประชาชนหลั่งไหล่เข้ามาชมความใหญ่โต และความสวยงาม ไม่ขาดสาย พร้อมทั้งไหว้สักการะขอพร ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ก็นิยมมาวัดแห่งนี้เช่นกัน โดยมักจะพบชาวมาเลเซียเป็นส่วนใหญ่DSCF0174

 

อุปกรณ์ที่ใช้บันทึกภาพ

Body : Fujifilm X-T10

Lens : Fujinon Lens XF 10 – 24 mm F4 R OIS

 

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมรีวิวค่ะ สามารถพูดคุยกันได้ที่

Face Book : ยัยตัวร้าย สะพายกล้อง / Bloggertrip

IG : @bloggertripth

Share Button
Leave a Reply