อยู่หาดใหญ่มาตั้งหลายปี ถามว่าเคยมาสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ หรือเปล่า ตอบได้เลยว่ามาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยที่จะรีวิวสถานที่สักที คราวนี้ได้มีโอกาสรีวิว ซึ่งบนเขาคอหงส์ เป็นที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ พระโพธิสัตว์กวนอิม ท้าวมหาพรหม และพระพุทธมงคลมหาราช เป็นต้น
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานบนเขาคอหงส์ อยู่ภายในบริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่พักผ่อนสำหรับชาวหาดใหญ่ และใกล้เคียง ภายในบริเวณหาดใหญ่มีที่สำหรับให้อาหารปลา เรือปั่น คอยให้บริการ และยังมีค่ายลูกเสืออีกด้วย
หาดใหญ่ไอซ์โดม ก็ตั้งอยู่บริเวณภายในสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่เช่นกัน มีรถรางให้บริการไปยังเคเบิ้ลคาร์ จอดอยู่หน้าไอซ์โดม
ยัยตัวร้าย มีรถยนต์ เลยขับรถยนต์ขึ้นไปดีกว่า จะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แรก คือ พระโพธิสัตว์กวนอิม ก่อนที่เราจะไปสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม เรามาไหว้เทพเจ้าที่ประดิษฐานภายในปากมังกรกันก่อน
เดินเข้ามายังภายในปากมังกร จะพบศาลาอยู่ทางซ้ายมือ จะมีบันไดมังกร ให้เราขึ้นไปสักการะพระโพธิสัตว์ 12 นักษัตร
รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม 12 นักษัตร
ด้านนี้จะเป็นรูปปูนปั้นลอยพระโพธิสัตว์กวนอิม
เง็กเซียนฮ่องเต้ เป็นประมุขของเทพเจ้าทั้งหลาย ประทานอำนาจวาสนา
พระสังกัจจายน์ ประทานโชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์
บริเวณเดียวกับพระสังกัจจายน์ จะมีรูปปั้นก้อนเงิน ให้เงินไหลนอง
ปากมังกรเปรียบเสมือนพบลานสวนสวรรค์ ใครที่เข้ามายังปากมังกรจะ มั่ง มี ศรี สุข ตลอดกาล
เดินออกมาจากปากมังกร จะพบกับเทพเจ้ากวนอู
เทพเจ้ากวนอู เป็นเทพแห่งคุณธรรม และความซื่อสัตย์ ประทานความก้าวหน้าในชีวิตแก่ผู้มากราบไหว้
ตำหนักพระโพธิสัตว์กวนอิม
ภายใต้ฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม จะเป็นตำหนักทรงแปดเหลี่ยม เสาตรงกลางภายในตำหนัก จะรายล้อมไปด้วยรูปปั้นพระโพธิสัตว์องค์เล็กสีทองมากมาย ป้ายเขียนไว้ว่ามีจำนวน 1,000 องค์
เทพเฝ้าประตูทางเข้าพระตำหนักพระโพธิสัตว์กวนอิม
สำหรับทางขึ้นที่จะมาตรงลานพระโพธิสัตว์กวนอิม สามารถเดินขึ้นบันไดจากตรงซุ้มประตูได้อีกทางหนึ่ง
ทางขึ้นไปมนัสการสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม
จะมีระฆังตั้งรายล้อมรอบพระโพธิสัตว์กวนอิม เมื่อเราสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มาตีระฆังให้ดังกังวาล เพื่อทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เกียรติ ก้อง ลือไกล ไปทั่วทุกสารทิศ
พระโพธิสัตว์กวนอิม
พระโพธิสัตว์กวนอิม หรือ เจ้าแม่กวนอิม เป็นองค์ประธานพร สร้างด้วยหินหยกสีขาว เป็นองค์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีขนาดความสูง 9.9 เมตร มีน้ำหนักโดยรวมประมาณ 80 ตัน จัดสร้างโดยเทศบาลนครหาดใหญ่ พ่อค้า ประชาชน และสมาคมมูลนิธิฯ ร่วมใจสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (พ.ศ. 2539) แกะสลักอย่างปราณีต โดยช่างชาวจีน มณฑลเหอเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน
รอบๆ องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม จะมีเทพเจ้าประจำทั้ง 4 ทิศ
ด้วยความ ศักดิ์สิทธิ์ และความศรัทธา ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางมากราบไหว้สักการะเป็นจำนวนมาก
พระพักตร์ของพระโพธิสัตว์กวนอิม หันไปทางทิศตะวันตก สามารถมองเห็นวิวเมืองหาดใหญ่ได้แบบ 360 องศา
สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้ด้วยเช่นกัน
จากลานพระโพธิสัตว์กวนอิม เราสามารถมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่บนยอเขาคอหงส์
เราขับรถมายังสถานที่ต่อไป ซึ่งเป็นสถานีของเคเบิ้ลคาร์
เคเบิ้ลคาร์ หาดใหญ่ (CABLE CAR HATYAI CITY)
กระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ความยาวของระยะทาง 525 เมตร กระเช้าสามารถรองรับผู้โดยสารครั้งละ 8 คน หรือรองรับน้ำหนักได้ 640 กิโลกรัม
เคเบิ้ลคาร์มีอยู่ด้วยกัน 2 สถานี คือ สถานีบริเวณท้าวมหาพรหม และสถานีบริเวณพระพุทธมงคลมหาราช
ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่ทางขึ้นไปยังท้าวมหาพรหม
ช้างเอราวัณ
ช้างเอราวัณ หรือช้างสามเศียร บางตำนานกล่าวว่า พระอิศวรได้ประทานช้างเอราวัณให้เป็นช้างทรงของพระอินทร์ และเป็นที่โปรดปรานของพระอินทร์มาก เชื่อกันว่าช้างเอราวัณเป็นเทพบุตรองค์หนึ่ง เมื่อพระอินทร์ต้องการจะเสด็จ ไปไหนเอราวัณเทพบุตร ก็จะแปลงกายเป็นช้างเผือก มี 33 เศียร แต่ละเศียรมีงา 7 งา งาแต่ละงายาวถึง 4 ล้านวา และยังเป็นช้างที่มีพละกำลังมากที่สุดด้วย
ช้างเอราวัณ เป็นเจ้าแห่งช้างทั้งปวง เป็นพาหนะคู่พระทัยของพระอินทร์ ช้างเอราวัณจึงเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของพระอินทร์ สัญลักษณ์ของการกระทำดี และสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
ช้างเอราวัณยังเป็นดวงตราของเทศบาลนครหาดใหญ่อีกด้วย
มีฆ้องวง 2 วง ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับช้างเอราวัณ
ท้าวมหาพรหม หรือ พระพรหม เป็นพระพรหมที่สถิตยู่บนพรหมโลกชั้นที่ 3 มหาพรหมาภูมิ ซึ่งเป็นประมุขแห่งพระพรหมในชั้นปฐมฌาน มหาพรหมาภูมิมีพระพรหมอยู่ เป็นจำนวนนับล้านองค์ ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และมีอานุภาพมากมายนานัปการ และเป็นเทพผู้สร้าง ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคน พระพรหม จึงเป็นผู้รู้ความเคลื่อนไหวของสรรพชีวิต เหตุการณ์สำคัญของโลกล้วนอยู่ในสายตาของพระพรหม พระพรหม คือ มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งในสามตรีมูรติ ทรงรับฟังคำอธิษฐานของผู้ศรัทธาเสมอ
ผู้บูชาพระพรหม และทำความดี จะได้รับการบันดาลพรให้สมหวังในสิ่งที่ปราถนา ความเชื่อ ความศรัทธาของท้าวมหาพรหม ทำให้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติต่างก็หลั่งไหลมากราบไหว้สักการะ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย และชาวสิงคโปร์ ที่มีเชื้อสายจีนที่มีความเคารพนับถือ แวะเวียนมาสักการะอยู่อย่างไม่ขาดสาย ถวายเครื่องสักการะบูชา เครื่องเซ่นเครื่องสังเวย พวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียน ช้าง ม้า ผ้าแพรพรรณ ละคร ระบำ รำฟ้อน ฯลฯ ให้ช่วยประทานพร หรือเมื่อกระทำการใดๆ สำเร็จในสิ่งอันพึงปรารถนาแล้วจึงมาแก้สินบนตามที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้
เมื่อได้รับประทานพรอย่างที่หวังไว้ มาทำการแก้บน โดยการจุดประทัดตามจำนวนนัดที่ได้บนบานไว้
พระยาครุฑ สัตว์เทพ พาหนะ แห่งมหาเทพวิษณุ และพระแม่ลักษมีเทวี
ภายในบริเวณท้าวมหาพรหม ได้มีเครื่องบูชา เครื่องสังเวยต่างๆ ให้บริการ
เมื่อเราบนบานท้าวมหาพรหมแล้ว เราได้รับประทานพรอย่างที่หวังใครจะแก้บนด้วยช้างสามเศียรก็ได้ โดยเขียนชื่อลงบนตัวช้าง และผูกผ้ายันต์สีแดง หรือใครไม่ได้บนบานก็สามารถถวายช้างสามเศียรได้เช่นกัน
ชาวมาเลเซียมาทำการแก้บน โดยการรำแก้บน โดยต้องรำให้ครบทั้งสี่พระพักตร์
บริเวณท้าวมหาพรหม ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพองค์อื่นๆ คือ พระอิศวร พระพิฆเนศ และพระแม่อุมาเทวี อีกด้วย
ยัยตัวร้าย จะนั่งกระเช้าลอยฟ้าไปยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถานที่สุดท้าย
เคเบิ้ลคาร์ หรือกระเช้าลอยฟ้า มีค่าธรรมเนียม ดังนี้ คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร) 50 บาท นักเรียน / นักศึกษา สวมเครื่องแบบ และผู้ใหญ่ สวมเครื่องแบบข้าราชการ 50 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท
กระเช้าลอยฟ้ารางคู่ มีระยะทาง 525 เมตร จากสถานีท้าวมหาพรหม ไปยังสถานีพระพุทธมงคลมหาราช
สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองหาดใหญ่ได้แบบ 360 องศา
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงที่จุดหมายปลายทาง
พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง นั่นคือ จุดหมายที่ ยัยตัวร้าย จะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยูบนเขาคอหงส์ เป็นที่สุดท้าย
พระพุทธมงคลมหาราช
พระพุทธรูปประจำนครหาดใหญ่ เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ก่อสร้างขึ้นด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา (พ.ศ. 2542)
พระพุทธมงคลมหาราช ออกแบบโดย ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ มีขนาดความสูง 19.90 เมตร หล่อด้วยทองเหลืองเนื้อดีอย่างวิจิตรงดงาม โดยได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามของพระพุทธรูปนี้ว่า “พระพุทธมงคลมหาราช” ซึ่งหมายความว่า “ความเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่” วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2542 โดยมี สมเด็จพระญารสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังคปรินายก เสด็จเป็นองค์ประธานพิธีเททองพระหัตถ์พระพุทธมงคลมหาราช ณ มณฑลพิธีพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2543 จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระเกตุมาลาเมื่อวันพฤหัสที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2553 ขึ้นมายังเขาคอหงส์
พระพุทธมงคลมหาราช เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ หันหน้าพระพักต์เข้าสู่เมืองหาดใหญ่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มีพระบรมราชาณุญาตให้ ใช้ตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2552 ประดิษฐาน ณ ฐานพระพุทธมงคลมหาราช
พระพุทธมงคลมหาราช ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาคอหงส์ เป็นพระพุทธรูปประจำเมืองหาดใหญ่ เป็นที่เคารพสัักการะของชาวหาดใหญ่ และใกล้เคียง
เขาคอหงส์ มีความสูง 371 เมตรเหนือน้ำทะเล ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั่วเมืองหาดใหญ่ บันไดนี้สามารถลงไปยังพระโพธิสัตว์กวนอิมได้
จุดชมวิวบนยอดเขาคอหงส์ เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุด และสวยที่สุดในการชมวิวทิวทัศน์เมืองหาดใหญ่ และยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้บริเวณนี้อีกด้วย
พอตกเย็น พระอาทิตย์ตกดิน นักท่องเที่ยว และชาวหาดใหญ่ หลั่งไหลมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินบ้าง มาถ่ายรูปบ้าง
นั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ไร้แสงตะวัน เราก็มองดาวบนดินกันต่อ แสงไฟยามค่ำคืนในเมืองหาดใหญ่
เที่ยวสวนสาธารณะหาดใหญ่แล้วยังได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่บนเขาคอหงส์ อย่างเช่น พระพุทธมงคลมหาราช ท้าวมหาพรหม พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นต้น และยังได้นั่งกระเช้าลอยฟ้าชมความงามของเมืองหาดใหญ่ อีกทั้งยังได้ชมพระอาทิตย์ตกดินบนยอดเขาคอหงส์อีกด้วย
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมรีวิวค่ะ สามารถพูดคุยกันได้ที่
Face Book : ยัยตัวร้าย สะพายกล้อง / Bloggertrip
IG : @bloggertripth
Twitter : @iamdevilth
Leave a Reply