ยัยตัวร้าย ได้เดินทางมายัง วัดชัยมงคล ซึ่งเป็นวัดอารามหลวง สังกัดปกครองคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดที่เก่าแก่ และสำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา ภายในวัดประดิษฐานองค์พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่เคารพสักการะ ของชาวจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง
วัดชัยมงคล
ที่ตั้ง : ถนนเพชรมงคล – ชัยมงคล ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
พระอุโบสถ
พระอุโบสถ หลังนี้ได้ทำการสร้างขึ้นใหม่ แทนพระอุโบสถหลังเดิม เป็นพระอุโบสถทรงไทย มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หลังคาลด 3 ชั้น มีพาไลหน้า – หลัง หน้าบันด้านหน้าพระอุโบสถ เป็นลายปูนปั้นลอยตัว ซุ้มประตู และซุ้มหน้าต่างเป็นรูปพระมงกุฎ
วัดชัยมงคล
วัดชัยมงคล สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏแน่ชัด ตามคำบอกเล่าของ พระครูพินิจสมณการ เล่าถึงประวัติของวัดชัยมงคลว่า วัดนี้สร้างขึ้นมาพร้อมกับวัดเพชรมงคล (ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของวัดชัยมงคล อยู่ในเขตตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา เช่นเดียวกัน) โดยพระอาจารย์ชัยเป็นผู้สร้างวัดชัยมงคล และพระอาจารย์เพชรเป็นผู้สร้างวัดเพชรมงคล พระภิกษุทั้ง 2 รูปนี้ เป็นเพื่อนสนิทกัน และเป็นชาวกลันตันด้วยกัน (สมัยกลันตันยังเป็นหัวเมืองในราชอาณาจักรไทย) เมื่อราวปลายสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณปี พ.ศ. 2394
วัดชัยมงคล เดิมมีชื่อว่า “วัดโคกเสม็ด” เพราะตั้งอยู่บนเนินทรายที่มีต้นเสม็ดอยู่จำนวนมาก ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดชัยมงคล”
เจดีย์พระบรมธาตุ จะตั้งอยู่ถัดจาก พระอุโบสถทางขวามือ และมีหอระฆัง ตั้งใกล้กับเจดีย์พระบรมธาตุ
หอระฆัง
สร้างเมื่อ 11 มกราคม 2540 โดย นายท่ามไกว่ นางบุญช่วย เหล่าสิริพรวัฒนา
เจดีย์พระบรมธาตุวัดชัยมงคล
อาจารย์นะ ติสสโร มีความศรัทธาอย่างแรงกล้า ที่จะได้พระบรมสารีริกธาตุมาไว้เป็นที่สักการะบูชาของชาวเมืองสงขลา จึงได้เดินทางไปถึงประเทศลังกา เพื่อแสวงหาพระบรมสารีริกธาตุ ท่านได้ทราบจากสมเด็จพระสังฆราชวัดถูปารามว่า ที่บ้านเศรษฐีมีจิตศรัทธาท่านหนึ่งมีพระธาตุอยู่หลายผอบ อาจารย์นะทราบข่าวก็ดีใจรีบไปหาเศรษฐีผู้นั้น แจ้งความประสงค์ให้ทราบว่าการมาประเทศลังกาครั้งนี้ นอกจากมานมัสการปูชนียสถานแล้ว ยังมีความประสงค์ที่สำคัญมาก คือ เพื่อต้องการแสวงหาพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐานไว้เป็นที่สักการบูชาของ พุทธศาสนิกชนที่เมืองไทย
ท่านเศรษฐีได้ฟังดังนั้น ก็บอกว่าพระธาตุของตนมีอยู่ 4 ผอบ คือ พระบรมสารีริกธาตุ 1 ผอบ พระธาตุพระโคคลาน 1 ผอบ พระธาตุพระสารีบุตร 1 ผอบ และพระธาตุพระอานนท์ 1 ผอบ จะถวายอาจารย์นะไปสัก 1 ผอบ แต่ให้อาจารย์นะ ได้ตั้งจิตอธิษฐานถึงบารมีพระพุทธองค์ และในที่สุดก็จับได้ผอบพระบรมสารีริกธาตุสมความปรารถนา ฝ่ายท่านเศรษฐีเมื่อเห็นว่าท่านอาจารย์นะ จับถูกผอบพระบรมสารีริกธาตุ เกิดความเสียดายจนน้ำตาร่วงพรูออกมาอย่างไม่รู้ตัว เนื่องจากเป็นมรดกประจำสกุลตกทอดมาหลายชั่วอายุคน เมื่ออาจารย์นะเห็นว่าท่านเศรษฐีร้องไห้จึงบอกว่า เมื่อโยมยังมีความอาลัยอยู่อาตมาก็จะไม่ขอเอาไปขอคืนกลับให้ตามเดิม ท่านเศรษฐีจึงพูดว่าขอพระคุณเจ้าจงอัญเชิญไปเมืองไทยเถอะ พระบรมสารีริกธาตุปรารถนาจะเสด็จไปกับท่านแล้ว พร้อมกับสั่งว่า เมื่อท่านกลับไปถึงเมืองไทยแล้ว ขอให้สร้างพระสถูปเจดีย์เป็นแบบถูปารามสำหรับบรรจุ เพราะพระบรมธาตุนี้ได้มาจากพระเจดีย์ถูปารามเมื่อครั้งทำการปฏิสังขรณ์ใหม่ พร้อมกับมอบภาพพระเจดีย์ถูปารามให้มาด้วย และสั่งว่าให้สร้างพระพุทธไสยาสน์ไว้ทางทิศตะวันตกของพระเจดีย์ด้วย
ขอบคุณข้อมูล จากเว็บไซต์ >>>>> สำนักงานพระพุทธสาสนาจังหวัดสงขลา
ก่อสร้างพระสถูปเจดีย์ สำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นทรงลังกา แบบถูปารามตามคำท่านเศรษฐีสั่งทุกประการ และได้ทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันวิสาขบูชา ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2439
ตามคำสั่งของท่านเศรษฐี จึงสร้างพระพุทธไสยยาสน์ ทางด้านทิศใต้ของพระเจดีย์ เป็นปูชนียวัตถุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ตามคำบอกเล่าต่อๆ กันมาว่า กว่าจะสร้างพระพุทธไสยยาสน์สำเร็จต้องรื้อทิ้งหลายครั้ง เพราะไม่ถูกใจขอคณะกรรมการผู้ควบคุมการสร้าง ถึงขั้นว่ามีเทวดาเข้าสิงนายช่าง ผู้ทำการปั้นองค์พระ จึงทำให้การปั้นพระพุทธไสยยาสน์ได้สวยงามตามความประสงค์ของคณะกรรมการผู้ควบคุมการสร้าง องค์พระพุทธไสยาสน์สร้างด้วยปูนปั้น ขนาดองค์พระยาว 5.52 เมตร ลงรักปิดทอง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2484
บริเวณภายในวัดชัยมงคล ยังเป็นที่ตั้งโรงเรียน ซึ่งมีชื่อว่า “โรงเรียนชัยมงคลวิทย์”
พระอาทิตย์ตกดิน สาดส่องมายัง เจดีย์พระบรมธาตุวัดชัยมงคล
ด้านหลังพระอุโบสถ วัดชัยมงคล สาดส่องจากพระอาทิตย์ตกดิน
อุปกรณ์ที่ใช้บันทึกภาพ
Body : Fujifilm X-T10
Lens : Fujinon Lens XF 10 – 24 mm F4 R OIS
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมรีวิวค่ะ สามารถพูดคุยกันได้ที่
Face Book : ยัยตัวร้าย สะพายกล้อง / Bloggertrip
IG : @bloggertripth
Twitter : @iamdevilth
Leave a Reply