บางกอกเจมส์ ครั้งที่ 62 ชวนสมาคมช่างทองไทย สืบสานเครื่องประดับงานศิลป์

หากย้อนรอยประวัติศาสตร์ไทยจะพบกว่า สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด เป็นยุคที่ร่ำรวยและมั่งคั่งไปด้วยทองคำ อ้างอิงตามบันทึกจดหมายเหตุของลาลูแบร์ เอกอัครราชทูตชาวฝรั่งเศสจากราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งเดินทางเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในปีพ.ศ. 2230 ได้บันทึกไว้ว่า “ในกรุงศรีอยุธยานั้นมีพระพุทธรูปทองคำและวัตถุทองคำต่างๆ มากมาย ตามวัดวาอาราม โบสถ์ วิหาร ต่างก็ประดับไปด้วยทองคำและอัญมณี กรุงศรีอยุธยานั้นเป็นแหล่งทองคำสมคำร่ำลืออย่างแท้จริง”

 

อีกหลักฐานที่ยืนยันความรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาได้ชัดเจนคือ การขุดพบกรุสมบัติครั้งยิ่งใหญ่ในองค์พระปรางค์วัดราชบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2500 ภายในกรุได้ค้นพบของมีค่ามากมาย อาทิ เศียรพระพุทธรูป พระพุทธรูปสมัยทวารวดี สุโขทัย อยุธยา อู่ทอง เครื่องประดับ เครื่องไม้จำหลักฝีมือช่างสมัยอยุธยา เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องถ้วย ของมีค่าเหล่านี้ล้วนมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และบอกเล่าถึงที่มาของชนชาติไทย ซึ่งได้ถูกเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

 

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช นายกสมาคมช่างทองไทย นำทีมครูช่าง และสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ได้ชื่นชมงานเครื่องทองอันมีฝีมือประณีตที่ได้ทิ้งร่องรอยศิลปวัฒนธรรมในอดีตอันเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละยุคสมัยอย่างเด่นชัด สะท้อนถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษได้ถูกส่งต่อเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น

 

“ในฐานะของสมาคมช่างทองไทยได้มีพันธกิจในการสืบสานและอนุรักษ์งานฝีมือของช่างทองและเครื่องประดับไทย พร้อมพัฒนามาตรฐานช่างฝีมือไทยให้มีมาตรฐานระดับสากล ขอขอบคุณกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่ให้โอกาสผู้ประกอบการช่างทองไทย ได้มีพื้นที่ในงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรืองาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 62” นายบุญเลิศ กล่าว

 

ภายในงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 62 สมาคมช่างทองไทย ได้จัดเตรียมพื้นที่สาธิตเทคนิคการผลิตเครื่องประดับ แสดงคุณค่าของฝีมือช่างที่มีความละเอียด ประณีต อันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องประดับไทยที่ชาวต่างชาติให้การยอมรับ รวมทั้งนำผลงานเครื่องประดับระดับมาสเตอร์พีซ (Masterpieces) ที่ได้รับการพัฒนาเทคนิคมาจากอดีต ประกอบกับการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้สวมใส่ง่ายและดีไซน์ร่วมสมัย อาทิ งานตอกลาย เทคนิคโมกุเม่ กาเน่ มาจัดแสดงโชว์ในโซน New Faces ซึ่งเป็นโซนเครื่องประดับจากผู้ประกอบการ และดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ซึ่งงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 62 ถือเป็นงานใหญ่ในวงการเครื่องประดับไทย และเป็นเวทีที่สนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้แสดงผลงานกับตลาด มีพื้นที่พบปะคู่ค้า เพิ่มโอกาสในการเจรจาทางการค้า การทำธุรกิจทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

 

งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 62 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “Heritage & Craftsmanship” หัตถศิลป์มรดกทางวัฒนธรรม ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้า หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bkkgems.com

 

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมรีวิวค่ะ สามารถพูดคุยกันได้ที่

Face Book : ยัยตัวร้าย สะพายกล้อง / Bloggertrip

IG : @bloggertripth